วันศุกร์ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2552

แช็ตอย่างไรให้ปลอดภัย....( สาว ๆๆไม่ควรพลาดค๊า )


Chat คืออะไร


Chat (n): การพูดคุยกันเล่นๆ, การคุยเล่น, การพูดคุยChat (V): พูด, คุย, จ้อ, โอภาปราศัย

นั่นคือความหมายตรงตัวของคำๆ นี้ที่หาได้จากพจนานุกรม นอกเหนือจากนั้นในความหมายของคนทั่วไป Chat คือการพูดคุยออนไลน์ผ่านอินเทอร์เน็ต โดยอาจใช้โปรแกรมแตกต่างกันไป เช่น MSN, Google talk, Yahoo Messenger, Skype

การ Chat นั้นมีทั้งข้อดีและข้อเสีย โดยข้อดีจะอยู่ที่เราสามารถหาเพื่อนและพูดคุยกับคนที่มีความคิดคล้ายๆ กัน สามารถสร้างกลุ่มที่มีความสนใจคล้ายคลึงกันขึ้นมาได้ สามารถรับส่งข้อมูลระหว่างกันได้อย่างรวดเร็ว เป็นการติดต่อสื่อสารแบบ real time แต่ข้อเสียของ Chat อยู่ตรงที่ว่าโอกาสที่คู่สนทนาจะให้ข้อมูลเท็จ (โกหก) เรามีสูงมาก โดยเฉพาะหากคนที่เราสนทนาด้วยไม่ใช่คนในครอบครัว ดังนั้นเราจึงควรรู้เท่าทันทั้งประโยชน์และโทษของการ Chat เพื่อที่เราจะสามารถใช้เทคโนโลยีได้อย่างปลอดภัย
วิธีง่ายๆ ในการ Chat ให้ปลอดภัย


1. ควรจะคุยกับเพื่อนที่เรารู้จักเท่านั้น ไม่ควรคุยกับคนที่เราไม่เคยรู้จัก หรือหากต้องการรู้จักเพื่อนใหม่ ก็ยังไม่ควรเปิดเผยข้อมูลส่วนตัว หรือให้ความไว้วางใจมากจนเกินไปนัก (พยายามเชื่อคนยากเข้าไว้ โดยเฉพาะคนที่เรายังไม่รู้จักดี)

2. ไม่ควรตั้งชื่อหัวข้อ หรือสิ่งต่างๆ โดยใช้ข้อมูลส่วนตัว (เรื่องบางเรื่องให้เขาเป็นฝ่ายศึกษาเราเองจะดีกว่า)

3. อย่าเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวที่สำคัญ ไม่ว่าจะเป็นหมายเลขโทรศัพท์ ที่อยู่ หรือสิ่งต่างๆ ที่จะทำให้อีกฝ่ายสามารถติดต่อมาหาเราได้ (ไม่มีใครรู้นี่นะ ว่าเขาจะนำความเดือดร้อนมาให้เราหรือเปล่า)

4. อย่าให้ email กับคนแปลกหน้า เพราะเราอาจได้รับ email จาก SPAMER มากจนเราต้องทิ้ง email ตัวเองเลยก็ได้ (มันจะมากมายจนเรารำคาญเลยล่ะ)

5. อย่ารับไฟล์ภาพ หรือดาวน์โหลดข้อมูลใดๆ จากคนที่เราไม่รู้จัก เพราะอาจเป็นการเชิญ Malware เข้ามาในเครื่องเราได้

6. ถ้าจำเป็นต้องคุยกับคนที่ไม่รู้จักจริงๆ ควรมีคนอื่นไม่ว่าญาติ พี่ น้อง หรือเพื่อนรับรู้ด้วย (จะได้ช่วยๆ กันดู ว่าเขาคุยอะไรกับเราบ้าง เชื่อได้แค่ไหน แถมยังป้องกันการ Blackmail ได้อีกด้วย)

7. ในกรณีที่เราใช้เครื่องคอมพิวเตอร์สาธารณะ เช่น ที่โรงเรียน ที่อินเทอร์เน็ตคาเฟ่ ไม่ควรใช้ฟังก์ชั่น Automatic Sign in หรือ Remember Password เพราะจะทำให้คนอื่นเขาสามารถใช้งาน Account ของเราได้

8. ผู้ปกครองควรที่จะเล่น Chat กับลูกหลานด้วย เพื่อให้รู้ว่าลูกหลานเรากำลังทำอะไรอยู่

9. อย่า Chat ในขณะเรียน (เพราะหากถูกจับได้ ต้องแย่แน่ๆ)
10. อย่า Chat จนลืมเวลา ต้องจำไว้ว่าชีวิตยังมีอะไรให้เรียนรู้อีกเยอะ ให้การ Chat เป็นหนึ่งในนั้นก็พอ อย่าให้กลายเป็นสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้ แบ่งเวลาอ่านหนังสือ ทำการบ้าน ดูทีวีติดตามข่าวสารของโลกภายนอกบ้าง จะได้ไม่ตกยุค


เกร็ดความรู้


Malware คืออะไร

ในปัจจุบันการใช้งานผ่านระบบอินเทอร์เน็ตนั้นได้มีโปรแกรมประเภทไม่หวังดี เพิ่มมากขึ้นเป็นจำนวนมาก ซึ่งผู้ใช้งานทั่วไปอาจจะได้รับข้อมูลข่าวสาร และโปรแกรมต่างๆ โดยไม่รู้ตัว และโปรแกรมเหล่านี้ได้เข้ามาฝังตัวในเครื่องคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้งานแล้วอาจทำให้เกิดอาการผิดปกติของเครื่องคอมพิวเตอร์ระหว่างการใช้งานอินเทอร์เน็ตเช่น การใช้งานที่ช้าลง มีการแสดงหน้าต่างโฆษณาสินค้าขึ้นตลอดเวลา พิมพ์ภาษาไทยบนระบบ Browser ไม่ได้ จนถึงเครื่องคอมพิวเตอร์ไม่สามารถใช้งานได้และต้องเปิด-ปิด เครื่องใหม่ เป็นต้น ซึ่งอาการเหล่านี้อาจเกิดจากโปรแกรมประเภท มัลแวร์ (Malware) โดยทำงานในลักษณะที่เป็นไวรัส ทั้งประเภทเวิร์ม (Worm) หรือหนอนอินเทอร์เน็ต และพวกม้าโทรจัน (Trojan Horse) การแอบดักจับข้อมูล (Spyware) และ (Key Logger) บนเครื่องคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้งาน ตลอดจนโปรแกรมประเภทขโมยข้อมูล (Cookie) และการฝัง Malicious Mobile Code (MMC) ผ่านทางช่องโหว่ของโปรแกรม Internet Explorer (IE Vulnerability) ที่เกิดขึ้น โดยโปรแกรมจะทำการควบคุมการทำงานโปรแกรม Internet Explorer ให้เป็นไปตามความต้องการของผู้ที่ไม่หวังดี เช่น การแสดงโฆษณาในลักษณะของการ Pop-Up หน้าต่างโฆษณาออกมาเป็นระยะ เราเรียกโปรแกรมประเภทนี้ว่า แอ็ดแวร์ (Adware) ซึ่งภัยเหล่านี้ในปัจจุบันได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจจะเกิดผลกระทบแก่ผู้ใช้งานได้ ถ้ารับโปรแกรมเหล่านี้เข้ามาในเครื่องคอมพิวเตอร์

วิธีป้องกัน Malware

1.ควรติดตั้งโปรแกรมตรวจสอบและกำจัดโปรแกรมประเภท Malware บนเครื่องคอมพิวเตอร์ สามารถ Download โปรแกรมได้ที่ http://www.download.com/3000-2144-10045910.html, http://www.safer-networking.org/en/download/index.html , http://www.bulletproofsoft.com ควรเปิดโปรแกรม Scan ข้อมูลบนเครื่องคอมพิวเตอร์อย่างน้อยอาทิตย์ละ 1 ครั้ง เพื่อตรวจสอบหาโปรแกรมประเภท Malware ที่เกิดขึ้นใหม่ในอนาคต

2.ควรติดตั้งโปรแกรม Scan Virus ที่สามารถกำจัดไวรัสและตรวจสอบไวรัสได้บนเครื่องคอมพิวเตอร์ก่อนทำการลงโปรแกรมอื่นๆ เช่น Mcafee Scan , PC-Cillin , Rtkiill , CPAV , MSAV, Norton Antivirus เป็นต้น หรือสามารถ Download โปรแกรมไวรัสฟรีได้ที่
http://free.grisoft.com/freeweb.php/doc/2 และ http://www.asw.cz และควรทำการ Update โปรแกรมป้องกันไวรัส อย่างสม่ำเสมอ

3.ทำการ Patch โปรแกรม Microsoft Internet Explorer

4.ไม่ควร Download โปรแกรม หรือเข้าชมเว็บไซต์ ที่ไม่น่าเชื่อถือ

(ข้อมูลการดาวน์โหลดอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามความทันสมัยของ version ของโปรแกรมนั้นๆ หรือการอัพเดทข้อมูลของเว็บไซต์)

จะรู้ได้อย่างไรว่าคอมพิวเตอร์ของเรามี Malware หรือไม่

1. ลองสังเกตตอนเปิดคอมพิวเตอร์ทำงานหรือต่ออินเทอร์เน็ต ถ้าหากยังไม่ได้ทำอะไรเลย แต่มีการส่งข้อมูลออกไปมากผิดปกติ มีความเป็นไปได้ว่าเครื่องคุณกำลังตกเป็นเหยื่อของ Malware

2. ทดสอบได้โดยกดแป้น Ctrl+Alt+Del เพื่อเข้าสู่ Task Manager ในแถบ process หากมี process ที่ชื่อว่า mscomserv.exe (DDOS_GNIK.A) กับ commserv.exe (Trojan.win32.agent.ye) run อยู่แปลว่าเครื่องคุณกำลังโดน Malware ดังกล่าวเล่นงาน (DDOS_GNIK.A เป็น Malware ที่โจมตีด้วยวิธีคล้าย ๆ กัน)

วิธีจัดการ Malware

1. สำหรับ Windows XP ให้ทำการ Disable ระบบ System Restore โดยทำการคลิ๊กขวาที่ My Computer และไปที่ Properties จากนั้นไปที่ System Restore ถ้ามีเครื่องหมายถูกที่ Checkbox ของ Turn off System Restore on all Device ให้ทำการคลิ๊กเครื่องหมายถูกออก กด Apply และ OK ตามลำดับ จากนั้นระบบจะให้ทำการ Restart เครื่องคอมพิวเตอร์ใหม่

2. กดแป้น F8 ตอนบู๊ตเครื่อง ระบบจะเข้าสู่เซฟโหมด 3. เปิดหน้าต่าง My Computer

4. เลือกเมนู Tools ไปที่ Folder Options 5. เลือกแถบ View คลิ๊กให้ระบบโชว์ไฟล์ทุกชนิดในคอมพิวเตอร์

6. ค้นหาไฟล์ชื่อ commserv.exe ในโฟลเดอร์ C:WINDOWSsystem32 ให้พบ (กรุณาพิมพ์ชื่อไฟล์ให้ถูกต้อง มิเช่นนั้นระบบอาจลบไฟล์ผิดตัว และทำให้ระบบเกิดความเสียหายได้) 7. กดปุ่ม Delete เพื่อลบไฟล์ดังกล่าว

8. รีสตาร์ทเครื่องใหม่

Mail Spam / Mail Bomb คืออะไร

Mail Spam คือ Mail ที่เราไม่ต้องการ เป็นประเภทหนึ่งของ Junk Mail หลายคนสับสนคำว่า Mail Spam กับคำว่า Mail Bomb จุดประสงค์ของ Mail Spam นั้นผู้ส่งส่วนใหญ่ต้องการโฆษณาบริการต่างๆที่ตัวเองมี ส่วนจุดประสงค์หลักของ Mail Bomb คือการก่อกวนผู้รับหรือระบบเมล์ของเครื่องข่ายนั้นๆ ทั่วไป Mail Spam เป็นการส่งอีเมล์แต่ละฉบับไปหาคนจำนวนมาก ส่วน Mail Bomb เป็นการส่ง Mail จำนวนมากไปหาคนๆ หนึ่งหรือระบบเมล์ใด ระบบเมล์หนึ่ง

วิธีลดปัญหาที่เกิดขึ้นจาก Mail Spam

1. รายงานกับ ISP หรือ Provider ที่เราใช้บริการเพื่อให้เค้าสกัดอีเมล์ที่มาจาก Domain นั้นๆ2. ใช้ Filter ค้นหาคำ Cash, Money, Promote, Sex แล้วลบอีเมล์ทิ้งที่ Server โดยไม่ต้องเสียเวลาดาวน์โหลด3. ไม่เปิดเผย Mailing List ในวงกว้างเกินความจำเป็น4. ไม่ตั้งชื่อ Mailing List ที่มีรายชื่ออยู่มาก ง่ายจนเกินไปเช่น all@domain.com5. ถ้าใช้ ICQ อย่าระบุ E-mail ไว้ในข้อมูลส่วนตัว6. ถ้าต้องการระบุ E-mail ส่วนตัวใน USENET ควรจะใส่จุดไว้ข้างหน้าและข้างหลังอีเมล์เพื่อไม่ให้เป็นการง่ายในการ ใช้โปรแกรม Spam เช่น .yourname@domain.com.

วิธีลดปัญหาที่เกิดขึ้นจาก Mail Bomb

1. มีการกำหนดค่าสูงสุดของเนื้อที่เก็บอีเมล์ของแต่ละบัญชี2. มีการตรวจสอบว่าข้อมูลของผู้ส่งก่อนใส่ไว้ ก่อนที่อีเมล์จะถูกส่งออกไป3. มีการกำหนดจำนวนมากที่สุดที่ผู้ใช้แต่ละคนจะส่งได้ในแต่ละครั้ง4. มีการกำหนดขนาดใหญ่ที่สุดของอีเมล์ที่จะรับเข้า5. ไม่อนุญาตให้ผู้ใช้ที่ไม่มีบัญชีบนเครื่องส่งอีเมล์ผ่านไปที่อื่นได้6. มีการตรวจสอบว่าผู้ส่งอีเมล์มีอยู่จริง โดยอาจทำการเช็คอีเมล์ก่อนส่ง ถ้าเช็คอีเมล์ไม่ผ่าน แสดงว่าผู้ส่งอาจปลอมชื่อมา7. สามารถปฎิเสธการรับจดหมายจากคำใน subject จาก Domain Name หรือจาก IP Address8. มีการเชื่อมต่อกับเครื่อข่ายคอมพิวเตอร์ของรายชื่อ Domain Name ที่มีการใช้ Mail Spamming และ Mail Bomb บ่อยครั้งๆ

(ข้อมูลอ้างอิงจาก ThaiCERT: Thai Computer Emergency Response Team ศูนย์ประสานงานการรักษาความปลอดภัยคอมพิวเตอร์ ประเทศไทย)


Chat ปลอดภัยส่งใจผ่านอีเมล์


ก่อนจากกันไปวันนี้ หวังว่าน้องๆ ที่รู้แล้วว่าจะ Chat อย่างไรให้ปลอดภัยต่อข้อมูลและความเป็นส่วนตัวของเรามากที่สุด จะระมัดระวังมากขึ้นและนำความรู้วันนี้ไปบอกต่อกับเพื่อน ญาติ พี่น้อง หรือคนที่เรารู้จักให้ได้รับรู้และระวังภัยที่อาจเกิดจากความรู้ไม่เท่าทันเทคโนโลยี เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์ว่า Chat แล้วถูกหลอก ก็คนเราเห็นตัวอักษร ไม่เห็นความคิดหรือจิตใจนี่นะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น